มนุษย์อาศัยอยู่บนโลกมาหลายพันปีแล้ว ก่อนที่อยู่รวมกันและมีความเจริญทางอารยธรรมแยกกันอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ เมื่ออารยธรรมมาเยือน มนุษย์เริ่มอาศัยอยู่ใกล้ชิดกันหนาแน่นมากขึ้นเป็นชุมชน โรคติดต่อจึงเกิดขึ้น เป็นผลเนื่องมาจากการอยู่ใกล้ชิดกัน
แหล่งอาหารของมนุษย์เปลี่ยนจากพืช สัตว์ และปลาที่หาได้จากแหล่งในธรรมชาติ มาเป็นพืชเพาะปลูกและสัตว์เลี้ยง การพัฒนาการเช่นนี้ทำ ให้การบริโภคอาหาร carbohydrate-rich diet ไม่เพียงพอผลที่ตามมาได้แก่ ภาวะขาดสารอาหารและความต้านทานเฉพาะตัวต่อการติดเชื้อลดลง โรคติดเชื้อจึงกลายมาเป็นข้อจำกัดหลักในการกำ หนดจำ นวนประชากร
โรคติดเชื้อยังคงเป็นปัญหาหลักทั่วโลกไม่ว่ามีโครงสร้างทางเศรษฐกิจอย่างไร โรคติดเชื้อมีผลต่อผู้คนเหมือนกัน ไม่ว่าเป็น ประเทศกําลังพัฒนาหรืออุตสาหกรรม
ไม่ว่าเป็นความทุกข์ยากที่เกิดตามธรรมชาติหรือด้วยเจตนา การติดเชื้อเหล่านี้ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยพิการ เสียชีวิตและทำลายประชากรทั้งหมด รัฐบาลและเศรษฐกิจ โดยไม่มีพรมแดน ทำ ให้เจ็บไข้ ได้ไม่ว่าเป็นคนหนุ่มคนแก่ มีหรือจน โรคระบาดชนิดใหม่ เช่น ไข้หวัดนก (Avian flu), SARS และ West Nile และความน่ากลัวของการระบาดจากการก่อการร้ายทางชีวภาพ (bioterrorism) ที่คุกคามเราทั้งหมด โรคติดเชื้อชนิดใหม่สุด ได้แก่ MRSA (Methicilin Resistant Staphylococcus aureus)
ในปี 2010 ศูนย์กลางควบคุมและป้องกันโรค (Center for Disease Control and Prevention) คาดการณ์ว่าประชากรในสหรัฐอเมริกาเกือบสองล้านคนติดเชื้อแบคทีเรียขณะอยู่ในโรงพยาบาลและประมาณ 9,000 คนเสียชีวิต
แบคทีเรียมากกว่า 70% ที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อดื้อยา อย่างน้อยที่สุดกับตัวยาที่ใช้กาจัดอยู่บ่อยๆ ํแบคทีเรียดื้อยาเช่น Methicilin Resistant Staphylococcus aureus เริ่มโจมตีสุขภาพของคนนอกโรงพยาบาล ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่ากลัว
Joseph R. Dalovisio ประธานสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมสหรัฐอเมริกา (IDSA) กล่าวว่า “เรามีการเตรียมตัวในสายของเภสัชกรรมเพียงพอหรือไม่ที่จะก้าวทันการพัฒนาการของแบคทีเรียดื้อยาที่เรียกว่า Superbug”
เบต้ากลูแคนที่ได้จากยีสต์ได้แสดงนับครั้งไม่ถ้วนโดยผ่านการทดลอง preclinic และ clinic trial กับแบคทีเรียหลากหลายชนิด แบคทีเรียชนิดต้าน antibiotic เชื้อรา ปรสิต การติดเชื้อไวรัส จากการทดลองเบต้ากลูแคนที่ได้จากยีสต์กับสัตว์ปรากฏผลเป็นบวกในการใช้กับ โรคปอด อักเสบ, การติดเชื้อในทางเดินอาหาร จากเชื้อ E. coli เชื้อดื้อยา MRSA และภาวะพิษเหตุติดเชื้อ (sepsis) การสืบค้นเรื่องสำคัญๆ ในการใช้เบต้ากลูแคนจากยีสต์พบว่า เพิ่มจำนวนผู้รอดตายจากการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะโดยจะช่วยเสริม antibiotic ประเภทต่างๆ
Beta 1, 3-D-Glucan ไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เป็นสารที่ปรับสภาพของระบบภูมิคุ้มกัน (immunomodulator) ที่สนับสนุนหน้าที่ระบบภูมิคุ้มกัน
การทดสอบขององค์กรอิสระแสดงให้เห็นว่าเบต้ากลูแคนปลอดภัย ไม่มีพิษ และสามารถเพิ่มพูนหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน ได้มีการศึกษา Beta 1, 3-D-Glucan ในมหาวิทยาลัยกว่า 10 แห่ง และองค์กรของรัฐ 3 แห่ง หัวข้อการทดสอบเกี่ยวกับ:
- มะเร็ง (ทรวงอก, ลําไส้ใหญ่, เนื้องอก และเม็ดเลือด)
- ป้องกันกัมมันตรังสี (cancer therapy, อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์, ก่อการร้ายทางชีวภาพและสงคราม)
- โรคติดเชื้อ (แบคทีเรีย, แบคทีเรียชนิดต้านยาปฏิชีวนะ, เชื้อรา และการติดเชื้อไวรัส) เสริมภูมิคุ้มกันทั่วๆ ไป
- ข้อพิสูจน์ประสิทธิภาพที่แท้จริงของเบต้ากลูแคนคือคุณรู้สึกอย่างไร? คุณรู้สึกดีขึ้นเมื่อคุณดูดีขึ้นและคุณดูดีขึ้นเมื่อคุณรู้สึกดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ภูมิคุ้มกันเบต้า ให้สุขภาพแก่คุณเกินคุ้ม !!
- ระบบภูมิคุ้มกันคือกระดูกสันหลังที่คำจุนสุขภาพของคุณ ถ้าไม่มีระบบภูมิคุ้มกันที่มีสุขภาพดี คุณจะรักษาสุขภาพคุณดีได้อย่างไร?
- คนที่บริโภคเบต้ากลูแคนมักถูกถามอยู่เสมอว่า “คุณทำ ให้ดูสดใสได้อย่างไร?” แม้จะไม่ถาม
ออกมาดังๆ แต่แสดงกิริยาท่าทางที่ฉงนชื่นชม
สนใจหนังสือเบต้ากลูแคน ติดต่อที่ 02-147-5900-1 คุณ ลัดดา (กุ้ง) ฟรี ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ เบต้ากลูแคน ทำหน้าที่กระตุ้นเม็ดเลือดขาว ให้ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทั่วไปเบต้ากลูแคนที่มีคุณภาพสูงจะประกอบด้วย
- คาร์โบไฮเดรตไม่น้อยกว่า 80 % (กลูแคนเป็น polyglucose)
- 1,3-d-glucan ไม่น้อยกว่า 85 %
- ไม่มีนำตาลหรือกลูโคสเจือปน
- ตรวจไม่พบไขมันและโปรตีน ไขมันทำ ให้ไม่สามารถย่อยสารช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และโปรตีน อาจมีผลกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้
- มีขนาดอนุภาคเฉลี่ย 0-5 ไมครอน (1 ไมครอน เท่ากับ 1 ในล้านเมตร)
- ปลอดจากเชื้อแบคทีเรีย และสารประกอบอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ
เม็ดเลือดขาวแข็งแรง เท่ากับ ภูมิคุ้มกันแข็งแรง