การฟื้นคืนสู่สภาพปกติหลังออกกําลังกาย (Workout Recovery)
Creatine monohydrate เป็นอาหารเสริมที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อการสร้างเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะมองลงไปถึงประโยชน์ของ creatine monohydrate สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจ คือกล้ามเนื้อโตขึ้นและแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร
สาเหตุสามประการที่กล้ามเนื้อเติบโต
ประการแรก กล้ามเนื้อต้องถูกใช้งานหนัก สิ่งนี้เกิดขึ้นในห้องยกน้ำหนักในแต่ละวัน เมื่อคุณเพิ่มแรงต้านหรือเพิ่มน้ำหนักในการฝึก มีการฝึกแบบทำซำ (repetition) และกำหนดจำนวนยก (set) ที่ฝึกหรือกำหนดช่วงเวลาพักระหว่างยก
ประการที่สอง ต้องบริโภคอาหารให้เพียงพอ ไม่ได้ต้องการสารอาหารในปริมาณสัดส่วนทั่วๆ ไปแต่จะต้องมีปริมาณโปรตีนและแคลอรีเพิ่มขึ้น โปรตีนที่นักยกน้ำหนักต้องการคือปริมาณ 2-3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว
ประการที่สาม อาจเป็นมุมมองที่คนทั่วไปเข้าใจกันน้อยในการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ได้แก่ การพักหรือการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ จากประสบการณ์ในการเติบโตที่เหมาะสม ต้องมีเวลาพักฟื้นเพียงพอตามความต้องการหลังการฝึกหนัก โดยทั่วไปสิ่งที่เกิดในช่วงพักเป็นผลให้เกิดการซ่อมแซมกล้ามเนื้อการศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์เปิดเผยว่า ระหว่างการฝึกพบว่ากล้ามเนื้อมีการฉีกขาด และต้องการช่วงเวลาพักเพื่อซ่อมแซมทั้งหมด ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นกระบวนการ protein resynthesis
ระบบภูมิคุ้มกันมีบทบาทอย่างไรในกระบวนการนี้
ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ร่วมในกระบวนการซ่อม และลดโอกาสของการฝึกในครั้งต่อไปทำให้มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 100%
Creatine ในรูปของ Creatine monohydrate ที่จำหน่ายในท้องตลาด เป็นอาหารเสริมพลังมีคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์สามารถเสริมพลังเมื่อใช้ตามใบสั่ง อย่างไรก็ตาม เหมือนในชีวิตจริงเพราะบางครั้งจะเจอทางตัน การใช้ Creatine monohydrate ไม่มีข้อยกเว้นโดยเฉพาะต่อความเป็นไปได้นี้
เมื่อดูในรายละเอียดว่า Creatine monohydrate ช่วยกล้ามเนื้อเติบโตได้อย่างไร แหล่งพลังงานสำหรับการฝึกอย่างหนัก ได้แก่ Creatine monohydrate ที่มีอยู่แล้วในกล้ามเนื้อ แต่มีอยู่ในปริมาณน้อย ช่วยในการฝึกได้ในระยะสั้น การใช้อาหารเสริม Creatine monohydrate จะช่วยยกระดับสารนี้ ในร่างกายให้สูงขึ้น สามารถทำจำ นวนครั้ง (repetition) ในการยกน้ำหนักมากขึ้น มีผลทำให้
กล้ามเนื้อเติบโตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าระยะเวลาพัก (ปกติ 48-72 ชม.) ไม่เพียงพอจะมีผลต่อการฝึกในครั้งต่อไป จากรูปในตอนต้นเห็นได้ว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับเบต้ากลูแคนมี work capacity น้อยลงในวันพุธและวันศุกร์ เนื่องจากมีเวลาพักไม่เพียงพอในวันอังคารและพฤหัสบดี ส่วนกลุ่มที่ได้รับเบต้ากลูแคนมี work capacity สูงตลอดทั้งสัปดาห์ที่ทำการฝึก (100%) เท่ากับวันจันทร์
ที่เริ่มต้นเนื่องจากมีเวลาพักเพียงพอในวันอังคารและพฤหัสบดี
ความจริง เพื่อให้การออกกําลังกายได้ผลสูงสุด ควรใช้สารกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันที่มีคุณภาพเช่น เบต้ากลูแคนร่วมกับ Creatine monohydrate เบต้ากลูแคนเป็นสารประกอบพิเศษจากผนังเซลล์ของยีสต์ เป็นสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีศักยภาพดีที่สุดที่มนุษย์เคยรู้จัก สิ่งที่ทำให้เบต้ากลูแคนเป็นสิ่งที่พิเศษ ต้องชมเชยการทำวิจัยที่กว้างขวางของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น Kentucky, Baylor, Tulane University School of Medicine และ Harvard
ผลิตภัณฑ์ เบต้ากลูแคน ทำหน้าที่กระตุ้นเม็ดเลือดขาว ให้ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทั่วไปเบต้ากลูแคนที่มีคุณภาพสูงจะประกอบด้วย
- คาร์โบไฮเดรตไม่น้อยกว่า 80 % (กลูแคนเป็น polyglucose)
- 1,3-d-glucan ไม่น้อยกว่า 85 %
- ไม่มีนำตาลหรือกลูโคสเจือปน
- ตรวจไม่พบไขมันและโปรตีน ไขมันทำ ให้ไม่สามารถย่อยสารช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และโปรตีน อาจมีผลกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้
- มีขนาดอนุภาคเฉลี่ย 0-5 ไมครอน (1 ไมครอน เท่ากับ 1 ในล้านเมตร)
- ปลอดจากเชื้อแบคทีเรีย และสารประกอบอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ
เม็ดเลือดขาวแข็งแรง เท่ากับ ภูมิคุ้มกันแข็งแรง